ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 เม. ย. 65 ปิดที่ 1, 668. 06 จุด ลดลง 6. 28 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 64, 433. 01 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 164. 62 ล้านบาท หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด EA ปิด 88 บาท ลบ 2 บาท, PTTEP ปิด 150 บาท บวก 6. 50 บาท, KBANK ปิด 152 บาท ลบ 3. 50 บาท, PTT ปิด 37. 25 บาท บวก 0. 25 บาท, BBL ปิด 134. 50 บาท ลบ 0. 50 บาท นักวิเคราะห์ บล. ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ชี้ Sell in May ปีนี้อาจเกิดเร็วกว่า เดือน พ. ค. หรือเกิดในช่วงเดือน เม. จากความเสี่ยงสงครามรัสเซีย-ยูเครน กระทบแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ทำให้อาจมีการปรับประมาณการกำไร ดังนั้นหลังการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/65 อาจเห็นการปรับลดเป้าซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่กระทบ ตลาดหุ้น ทั่วโลกรวมถึง หุ้นไทย ทำให้ภาพรวมไตรมาส 2/65 อัปไซด์มีจำกัด จากปัจจัยเสี่ยง การปรับลดการเติบโตเศรษฐกิจ และประมาณการกำไร บจ. จากราคาพลังงานที่สูงขึ้น การขึ้นดอกเบี้ยในอัตราเร่งของเฟด ที่จะกระทบต่อบรรยากาศลงทุน และต้นทุนการเงินของ บจ. ซึ่งการเริ่มลดขนาดงบดุลของเฟด จะกระทบต่อสภาพคล่อง และกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทำให้มองว่าปีนี้จะเกิด Sell in May เร็วขึ้นแนะกลยุทธ์ลงทุนสำหรับการเก็งกำไร ประเมินโอกาสเข้าซื้อที่ดัชนีระดับ 1, 600 จุด ต้นๆ ด้านนักวิเคราะห์ บล.
รถบรรทุกฮึ่มขยับเพดานดีเซลเกิน 30 บาท/ลิตร พร้อมขึ้นค่าขนส่งทันที
- รีวิวสินค้า Suqqu รองพื้น พร้อมราคาที่ดีที่สุดใน Thailand 2022
- ลุงนิตหาปลา แตงโม
- อัลบั้มภาพ คุณหญิงแมงมุม ประวัติเซเลบริตี้สาวคนดัง รักแท้ของนายพลดอลล่าร์
ตลาดหุ้นเอเชียปรับลบ นักลงทุนจับตาจีนเผยข้อมูลเศรษฐกิจ
"หุ้นไทย" ปรับตัวลงในแดนลบปิดตลาดที่ 1,668.06 จุด
ลบโฆษณา
รปภ.ฝากหวยกับแม่ค้า ซื้อไม่มีเงินจ่าย บอกใครถามขายเลย สุดท้ายไม่มีใครเอา เฮลั่นถูก 30 ล้าน
06 จุด ลดลง 6. 28 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0. 38% มูลค่าการซื้อขาย 64, 433. 01 ล้านบาท สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ โดยในช่วงนี้เป็นช่วงที่เริ่มต้นสู่การทยอยประกาศทยอยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเริ่มจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่มี TISCO ประกาศออกมาแล้วในวันนี้ และติดตามการทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ของธนาคารพาณิชย์อื่นๆ โดยให้แนวต้าน 1, 680-1, 685 จุด แนวรับ 1, 660-1, 665 จุด
หุ้นไทยปิดลบ 6.28 จุด กังวลเงินเฟ้อสูงหนุนเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย
5 แสนล้านหยวน (2. 352 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งปล่อยกู้ให้กับสถาบันการเงินไว้ที่ระดับ 2. 85% เพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบธนาคารให้มีปริมาณมากพอ โดยอัตราดอกเบี้ย MLF ถือเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน